สีทาภายนอก-ภายใน

Woman paint wall at home.

ลูกชายกำลังจะแต่งงาน ก็เป็นธรรมดาที่เจ้าตัวอยากออกไปสร้างครอบครัวของตนเอง เขาเลยมาปรึกษาเรื่องสร้างบ้าน ซึ่งผมก็พอแนะนำเขาได้บ้างในบางเรื่องครับ ตอนนี้ก็ติดปัญหาแค่สีทาบ้านที่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะต้องใช้อะไรอย่างไร

สมัยที่ช่างยิ้มมีบ้านหลังแรกเป็นของตัวเอง ก็พิถีพิถันในทุกจุดของบ้านอย่างนี้แหละครับ ยิ่งด้วยกับสีทาบ้านแล้ว กว่าจะลงตัวได้ ก็เล่นเอาช่างยิ้มปวดหัวเหมือนกัน การเลือกสีทาบ้านนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะสีทาบ้านเปรียบเสมือนเกราะชั้นแรกที่คอยปกป้องตัวบ้าน สีที่ดีจึงช่วยยืดอายุการใช้งานของบ้าน และช่วยทำให้บ้านดูโดดเด่น

ในปัจจุบัน สีทาบ้านมีตัวเลือกให้ใช้เยอะมากมายครับ การศึกษาข้อมูลรายละเอียดต่างๆ เช่น ประเภทของสี ลักษณะการใช้งาน คุณภาพ เป็นเรื่องที่ช่างยิ้มคิดว่าควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับคุณสมบัติของสีชนิดต่างๆกันนะครับ

1. สีอะคริลิกหรือสีพลาสติก: เป็นชนิดที่เราคุ้นเคยกันมากที่สุด ใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย เหมาะสำหรับใช้ทาบนพื้นผิวที่เป็นซีเมนต์ คอนกรีต รวมถึงกระเบื้อง เพื่อให้ได้สีสันที่สวยงาม โดยสีอะคริลิกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ สีทาภายนอกและสีทาภายใน

- สีทาบ้านภายนอก ถูกออกแบบมาให้พร้อมเผชิญกับสภาวะแดดและฝนโดยตรง จึงต้องเพิ่มสารพิเศษต่าง ๆ (Additive) เพื่อเพิ่มคุณสมบัติให้ใช้งานได้ดีและยาวนาน จึงมีความทนทานกว่าและมีราคาที่สูงกว่าสีทาภายใน โดยสีทาภายนอกสามารถใช้ทาได้ทั้งภายนอกและภายในบ้าน

- สีทาบ้านภายใน ถูกออกแบบมาให้ใช้ทาภายในอาคารเท่านั้นเพราะไม่จำเป็นต้องทนแดดทนฝน หากนำไปใช้ทาภายนอกก็จะทำให้สีหลุดล่อนและซีดจางได้ง่าย ๆ แต่สีทาภายในก็มีข้อดีที่มีกลิ่นและสารเคมีเบาบางกว่าสีทาภายนอก

2. สีน้ำมัน:สีที่ใช้น้ำมันหรือทินเนอร์เป็นตัวทำละลาย (Solvent) มีจุดเด่นที่มีความเงางาม แต่มีข้อจำกัดที่ราคาค่อนข้างสูงและแห้งช้า สีน้ำมันค่อนข้างเหมาะกับการใช้ทาบนผิวโลหะหรือไม้ ไม่นิยมใช้ทาบนซีเมนต์หรือคอนกรีตเท่าไรนัก

3. คัลเลอร์ซีเมนต์: นวัตกรรมการผสมสีลงในเนื้อซีเมนต์ มีจุดเด่นที่ความคงทน เพราะคัลเลอร์ซีเมนต์มีคุณสมบัติที่สามารถยึดเกาะบนพื้นผิวซีเมนต์ได้ดีเยี่ยมเสมือนเป็นเนื้อเดียวกัน จึงมีความทนทานมากเป็นพิเศษ ช่วยให้สีติดทนคู่ผนังบ้านได้ยาวนาน และเพราะเป็นสีที่ให้อารมณ์ประหนึ่งเป็นธรรมชาติ ไม่ทิ้งปัญหาผนังหลุดล่อนลอกพองเหมือนสีชนิดอื่น ๆ เมื่อถูกฝนหรือความชื้น

อีกทั้งยังช่วยปิดรอยแตกลายงาขนาดเล็กได้ทันที ใช้ได้ทั้งงานภายในและภายนอก ไม่มีกลิ่น ปลอดภัยต่อสุขภาพ และที่สำคัญยังสามารถใช้ได้หลากหลายวิธี ทั้งการทา ฉาบ พ่น และสร้างลวดลายต่างๆ จึงสร้างสรรค์ความงามได้หลากหลายรูปแบบ โดยไม่จำเป็นต้องทาสีรองพื้นก่อน เรียกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติของสีระดับพรีเมียมหลายรุ่นมารวมกันในกระป๋องเดียว ลงทุนครั้งเดียว สวยคุ้มยาวนาน

สำหรับเรื่องสีทาบ้านภายนอก-ภายในมีความแตกต่างกันอย่างไร ช่างยิ้มขออธิบายเพิ่มเติมดังนี้ครับ

การเลือกใช้สีทาบ้านภายนอก

สีทาบ้านสำหรับภายนอกควรเป็นแบบพิเศษ เพราะสีทาบ้านภายนอกจะต้องเผชิญกับสภาพอากาศทั้ง ฝน แดดและความร้อนอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น สีทาภายนอกจึงต้องมีคุณสมบัติที่ดีกว่าสีทาภายใน กล่าวคือต้องมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และเลือกเฉดสีให้เหมาะสมกับธรรมชาติโดยรอบ

การเลือกสีทาภายนอกที่ดีส่วนใหญ่จะเลือกเป็นสีอะคริลิค เนื่องจากสามารถทาได้ทั้งภายในและภายนอก แต่สำหรับสีที่ใช้ทาภายนอกจะมีราคาที่แพงกว่าสีทาภายใน เนื่องจากจะมีส่วนผสมเพิ่มเติมเข้าไปจากเนื้อสีเดิมเพื่อช่วยเสริมความคงทนให้สีติดทนนานและสามารถกันเชื้อรา ความชื้น แสงแดดและความร้อนได้เป็นอย่างดี ดังนั้น สีทาภายนอกจึงจะเป็นส่วนสำคัญที่ควรใส่ใจมากเป็นพิเศษ

การเลือกใช้สีทาบ้านภายใน

สำหรับสีทาบ้านภายใน ช่างยิ้มขอแนะนำให้เป็นสีอะคริลิคที่มีลักษณะเช่นเดียวกันกับสีภายนอก แต่จะเป็นเนื้อสีเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์โดยไม่มีส่วนผสมของสารอื่น นอกจากบางชนิดที่ต้องการเพิ่มคุณสมบัติพิเศษเข้าไป เนื้อสีจะมีความละเอียดเงางามเพื่อช่วยเสริมให้บ้านดูมีสีสัน โดยจะทาทับหลังจากทาสีรองพื้นลงไปแล้วเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับผนังมากขึ้น ทางที่ดีควรเลือกเนื้อสีที่มีความเงา และสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นคราบน้ำ น้ำมันหรือสิ่งสกปรกอื่นๆ โดยไม่มีเนื้อสีติดมากับผ้าที่เช็ด

 

นอกจากนี้ สิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามคือ ต้องเป็นสีที่ปราศจากเคมีและกลิ่น โดยเฉพาะสีในห้องนอน เพื่อสุขภาพที่ดีของสมาชิกครอบครัวภายในบ้าน

สรุปง่าย ๆ ว่า ความแตกต่างที่ชัดเจนของสีทาบ้านภายในและนอกนั้น อยู่ที่ความทนทานของสี และความเหมาะสมต่อการใช้งาน ถ้าเป็นสีที่ทาภายนอกจะทนทานต่อสภาพอากาศ ส่วนภายในบ้านจะต้องเป็นสีที่เป็นมิตรกับผู้อยู่อาศัย ไม่เหม็น ไม่หลุดร่อน นั่นเองครับ

Painting is very important for your home not only for a decoration but for surface protection. Different paints have different properties, and are formulated for different purposes. Interior paint is made to be scrubbed, resist staining, and allow cleaning. Exterior paints are made to combat against fading and mildew. When starting a painting project, it’s important to know the differences between the two and choose the right paint.

In order to understand the difference between exterior and interior paints, you will need to learn a bit about the chemistry behind paint.

Paint types are mostly categorized by their solvents. The components of all paints contain pigments, solvents, additives and resins. In latex paint, the solvent is water, while in oil-based paint the solvent of choice is mineral spirits. The solvent is what causes the paint to be ‘wet’. As paint dries, the solvent will evaporate. You are left with the resins, pigments, and additives, which are the lasting ingredients.  The pigment is the color, which is bound to the surface by the resin.  Resins can be made of epoxy, acrylic or even silicone.

In both types (interior and exterior) the solvents and pigments share similarities. You can use either oil-based or water-based paints outdoors, but for interior work oil-based paints are not usually used. The reason is their odor and difficulty to clean-up.

While there can be many subtle differences, the primary difference between interior and exterior paints is in their choice of resin. You will remember that the resin is what binds the pigment to the surface. In an exterior paint, it is important that the paint can survive temperature changes and being exposed to moisture. Exterior paint also must be tougher and resist peeling, chipping, and fading from sunlight. For these reasons, the resins used in binding exterior paints must be softer.

 

For interior paint where temperature is not a problem, the binding resins are more rigid, which cuts down on scuffing and smearing.

The added resins in exterior paint can cause outgassing, that may last up to 48 hours, but usually continues in small amounts for years. This is one reason you wouldn’t want to use exterior paint indoors. Choose a flat sheen exterior paint for masonry and stucco, as this will allow the surfaces to breathe, and allow moisture to breathe through the paint to escape. Brick walls especially should be allowed to breathe, as moisture transfer is to be expected with brick.

Interior paints are delicate in comparison with exterior paints, but don’t outgas in the same way, making them safer to use indoors. You should still make sure there is adequate ventilation when painting indoors. For an indoor surface, you may need to clean and scrub, choose a glossy finish interior paint, as they resist scrubbing better than flat surfaces, which can smear. There are also paints that are both interior and exterior, and can serve either purpose.

LivingDD Editor

เว็บไซต์ LivingDD.com เป็นสื่อในเครือ HI-CLASS Media Group นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับบ้าน สวน ไลฟ์สไตล์ การตกแต่ง การออกแบบ มีเป้าหมายเป็นกลุ่มคนรักบ้าน นักออกแบบ ช่างฝีมือสาขาต่างๆ ที่มีความสนใจและติดตามหาข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการออกแบบ ตกแต่ง ปรับปรุงบ้าน จัดสวน ไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับบ้าน ข่าวสารและบทสัมภาษณ์บุคคลในแวดวงการออกแบบ - Editor@HiclassSociety.com

You may also like...